ประวัติโรงเรียน
ประวัติโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม
โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม แต่เดิมนั้นกำเนิดมาจากการที่บิดา มารดานำกุลบุตรมาฝากเป็นศิษย์วัดกินอยู่หลับนอนที่วัดเพื่อศึกษาเล่าเรียนกับพระผู้เป็นอาจารย์มีเจ้าอาวาสเป็นผู้ดูแล คล้ายกับเป็นครูใหญ่ พระลูกวัดเป็นครูน้อย อาศัยกุฏิพระและศาลาการเปรียญหน้าโบสถ์หน้าวิหารของวัดเขมาภิรตารามเป็นสถานที่เล่าเรียน ในสมัยนั้นวิชาที่สอนมี วิชาภาษาไทย ภาษาขอม การอ่าน การเขียน การคัดลายมือ ศีลธรรม พระพุทธศาสนา ประวัติศาสตร์ พงศาวดารไทย จากความรู้และประสบการณ์จากพระผู้สอน
พ.ศ.2443 ท่านเจ้าคุณ พระวินัยรักขิต (คง ปัญญาทีโป) เป็นเจ้าอาวาสวัดเขมาภิรตารามขึ้นครองวัด ท่านมีความประสงค์จะส่งเสริมการศึกษาของกุลบุตรให้เจริญยิ่งขึ้น ประจวบกับเป็นรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระองค์ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขยายการศึกษาออกไปยังหัวเมืองมีการตั้งโรงเรียนหลวงหรือโรงเรียนรัฐบาลในหัวเมืองหลายแห่ง โดยมีกรมศึกษาธิการในสมัยนั้น เป็นผู้ดำเนินการตามราชประสงค์ ท่านเจ้าคุณพระวินัยรักขิตเห็นว่า กุลบุตรที่นิยมเข้ามาศึกษาเล่าเรียนในโรงเรียนวัดเขมาภิรตารามมากขึ้นเรื่อย ๆ ควรจะดำเนินการ ขอจัดตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นจึงได้ติดต่อ กรมศึกษาธิการให้ตั้งโรงเรียนหลวงขึ้นที่วัดเขมาภิรตาราม
พ.ศ.2449 พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าให้รื้อพระที่นั่งมูลมณเฑียร ซึ่งอยู่ในพระบรมมหาราชวัง มาปลูกที่วัดเขมาภิรตารามและทรงพระราชทานให้ใช้เป็นโรงเรียนนับว่าเป็นอาคารหลังแรกของโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม
พ.ศ.2450 กรมศึกษาธิการ จึงได้อนุญาตให้จัดตั้งโรงเรียนขึ้นที่วัดเขมาภิรตารามโดย ให้ชื่อว่า “โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม” ได้รับการยกฐานะขึ้นเป็น โรงเรียนรัฐบาล สถานศึกษาเล่าเรียน และยังคงใช้ พระที่นั่งมูลมณเฑียรที่สร้างขึ้นใหม่ศาลาภายในวัดต่างๆกุฏิพระและใต้อาคารเรียนเรื่อยมาโดยมีท่านเจ้าคุณพระวินัยรักขิตเป็นผู้อุปการะโรงเรียน
พ.ศ.2482 โรงเรียนเริ่มมีอาคารไม้ 2 ชั้น จำนวน 1 หลัง มี 12 ห้องเรียนและได้เปลี่ยนชื่อ โรงเรียนใหม่เป็น “โรงเรียนกลาโหมอุทิศ” เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่กระทรวงกลาโหม ร่วมกับข้าราชการกระทรวงกลาโหม ที่บริจาคเงิน 6,000 บาท และกระทรวงศึกษาธิการ ให้เงินสมทบอีก 3,840 บาท และใช้พระที่นั่งมูลมณเฑียรเป็นอาคารเรียน
พ.ศ.2495 ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรีขณะนั้นได้ให้กระทรวงศึกษาธิการ ติดต่อขอซื้อที่ดินของชาวบ้าน ทางทิศเหนือของวัดอีก 13 ไร่ 86 ตารางวา และรวมกับที่ดินของวัด 3 ไร่ 1 งาน 80 ตารางวา รวมเป็นที่ดิน 16 ไร่ 2 งาน 66 ตารางวา ทำการปรับปรุงก่อสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก 2 ชั้น แบบ 242 จำนวน 22 ห้องเรียน ปัจจุบันคือ อาคาร 1 สิ้นเงินก่อสร้าง 6,966,900 บาท ใช้เป็นอาคารเรียนเมื่อ 25 มิถุนายน 2497 โดย ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม มาเป็นประธานพิธีเปิด และเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม”
พ.ศ.2498 กระทรวงศึกษาธิการอนุมัติเงินต่อเติมอาคาร 1 อีก 10 ห้องเรียน เป็นเงิน 1,500,000 บาท รวมเป็น 32 ห้องเรียน
พ.ศ.2513 ได้รับอนุมัติให้สร้างอาคารเรียน 3 ชั้น 1 หลัง จำนวน 18 ห้องเรียน ปัจจุบันคือ อาคาร 2
พ.ศ.2515 สร้างเรือนกลาโหมเป็นอาคารไม้ ซึ่งปัจจุบันได้รื้อถอนไปแล้วในปี พ.ศ.2530
พ.ศ.2516 ได้รับประมาณ 2,800,000 บาท สร้างอาคารเรียน 4 ชั้น อีก 1 หลัง ปัจจุบันคือ อาคาร 4
พ.ศ.2516-2518 ได้รับงบประมาณ 4,000,000 บาท ต่อเติมอาคาร 6 จำนวน 6 ห้องเรียนปรับปรุงเป็นอาคารวิทยาศาสตร์ชั้นล่าง เป็นห้องสมุดและสร้างโรงฝึกงานอุตสาหกรรม จำนวน 6 หน่วย ต่อมาในปี พ.ศ.2542 ได้รื้อชั้นล่างทำเป็นพื้นที่พักผ่อนและเล่นกีฬาของนักเรียน
พ.ศ.2523 โรงเรียนได้รับงบประมาณ 5,000,000 บาท สร้างอาคารพิเศษ 1 หลัง ปัจจุบัน คือ อาคาร 5
พ.ศ.2527 สมาคมศิษย์เก่าเขมาภิรตาราม จัดสร้าง “ศาลากตัญญูกตเวทิตานนุสรณ์” ประดิษฐานรูปหล่อพระวินัยรักขิต ผู้ให้กำเนิดโรงเรียน บริเวณหน้าอาคาร 1
พ.ศ.2530 สมาคมศิษย์เก่า เขมาภิรตาราม สมาคมผู้ปกครองและครูเขมาภิรตาราม และผู้มีจิตศรัทธา ร่วมกันบริจาคเงินสร้างหอสมุด “พระเทพญาณกวี” แทนอาคาร 3 ที่รื้อไป
พ.ศ.2531 ได้รับงบประมาณ 3,500,000 บาท สร้างอาคารหอประชุมและโรงอาหารและตั้งชื่อเป็นเกียรติแก่ ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม ว่า “หอประชุม จอมพล ป. พิบูลสงคราม”
พ.ศ.2532 ได้รับอนุเคราะห์ จากสมาคมศิษย์เก่า เขมาภิรตาราม สร้างอนุสาวรีย์ ฯพณฯ จอมพล ป.พิบูลสงคราม เป็นเงิน 1,114,000 บาท และทำพิธีเปิดเมื่อวันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคม 2532
พ.ศ.2533 ได้รับงบประมาณ 5,850,400 บาท ก่อสร้างอาคารอเนกประสงค์ 2 ชั้น ปัจจุบันคืออาคารพลศึกษาหรือ อาคาร 3
พ.ศ.2536 โรงเรียนได้รับคัดเลือกเข้ารับรางวัลพระราชทานโรงเรียนมัธยมขนาดใหญ่จากกระทรวงศึกษาธิการ
พ.ศ.2539-2541 ได้รับงบประมาณจากกรมสามัญศึกษาจำนวน 3,800,000 บาท ก่อสร้างอาคารเรียนแบบพิเศษ 7 ชั้น ปัจจุบันคือ อาคาร 6
พ.ศ.2541 ได้รับเงินสนับสนุนจากสหกรณ์ร้านค้าโรงเรียน จำนวน 260,000 บาท สมาคมศิษย์เก่าเขมาภิรตาราม จำนวน 200,000 บาท และเงินบริจาคอื่นๆ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,000,000 บาท สร้างเสาธงพร้อมฐาน เทพื้นสนามกีฬาเป็นคอนกรีต ปรับแต่งสนามโดยรอบให้สวยงามและจัดซ่อมประตูอัลลอยด์หน้าอาคารเรียน 1
พ.ศ.2542 ได้รับงบประมาณทำระบบระบายน้ำ และบำบัดน้ำเสีย เป็นเงิน 1,600,000 บาท ปรับปรุงและติดตั้งอุปกรณ์อนุรักษ์พลังงานของชาติ โดยการเปลี่ยนอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดในอาคารเรียนและอาคารประกอบต่าง ๆ
พ.ศ.2543 ได้ปรับปรุงห้องน้ำนักเรียนชาย ทำประตูม้วน เหล็กดัดหน้าต่าง อาคารเรียนต่าง ๆ ต่อเติมหลังคาบริเวณระเบียงห้องประชุมจอมพล ป.พิบูลสงครามและห้องอาหารครู
พ.ศ.2544 ได้ปรับปรุงโรงอาหารโดยปูพื้นเป็นกระเบื้องและจัดทำช่องกั้นทางเดินเข้าร้าน
พ.ศ.2545 ได้รับเงินสนับสนุนจากสมาคมผู้ปกครองและครูเขมาภิรตาราม จำนวน 98,000 บาท สร้างห้องน้ำนักเรียนชาย-หญิง
พ.ศ.2546 ทาสีหลังคา อาคาร 1 และอาคาร 5 และปรับปรุงศาลาหลวงปู่คง ปัญญาทีโป
พ.ศ.2547 จัดทำห้อง ICT ห้อง Resources Center และห้อง Self Access ปรับปรุงห้องคอมพิวเตอร์ 2 ห้อง จัดทำเวทีหน้าเสาธง ป้ายชื่อหน้าโรงเรียน ซ่อมแซมอาคาร 1
พ.ศ.2548 จัดทำห้อง E-Learning ห้องปฏิบัติการ สอนวิทยาศาสตร์ (ฟิสิกส์, เคมี และชีววิทยา)
พ.ศ.2549 ปรับปรุงทาสีและปูพื้นกระเบื้องห้องเรียน อาคาร 5
พ.ศ.2550 ปรับปรุงอาคาร 1 เป็นอาคารสำนักงานฝ่ายต่าง ๆ ห้องสมุด และพิพิธภัณฑ์การศึกษา ห้องเรียนพิเศษโครงการส่งเสริมคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์ โครงการจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเป็นภาษาอังกฤษ (E.P.) และกลุ่มสาระการเรียนรู้เทคโนโลยีทางการศึกษา นอกจากนี้ได้ปรับปรุงอาคารสถานที่โดยรวมทั้งโรงเรียนดังนี้
– ปรับปรุงโรงฝึกงานอุตสาหกรรมศิลป์เป็นอาคารศิลปศึกษา (อาคาร 3)
– ปรับปรุงอาคาร 2 เป็นอาคารกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
– ปรับปรุงอาคารหอสมุดพระเทพญาณกวีเป็นสำนักงานกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนและห้องเรียนพิเศษโครงการส่งเสริมคณิตศาสตร์-วิทยาศาสตร์
– ปรับปรุงอาคาร 4 เป็นอาคารกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี และห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
– ปรับปรุงอาคาร 6 เป็นกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และห้องปฏิบัติการคอมพิวเตอร์
– ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบสนามโรงเรียน โดยจัดสร้างศาลาทรงไทย จำนวน 5 หลัง พร้อมจัดสวนพฤกษศาสตร์โรงเรียนเป็นสวนหย่อม สวนหิน
– ปรับปรุงพื้นสนามโรงเรียนเป็นลานซีเมนต์เต็มพื้นที่
พ.ศ.2551 ปรับปรุงหอประชุม จอมพล ป.พิบูลสงคราม โดยติดแอร์เต็มรูปแบบจำนวน 15 ตัว
พ.ศ.2552 ปรับปรุงโรงอาหารนักเรียน
พ.ศ.2553 สร้างบ่อดักไขมันในโรงอาหาร ทำโต๊ะอาหารและเก้าอี้แสตนเลสสำหรับนักเรียนในโรงอาหาร จำนวน 30 ชุด
พ.ศ.2554 สร้างศาลาทรงไทย 3 หลัง อาคาร 5
– สร้างบ้านพักครู จำนวน 13 ยูนิต หลังอาคาร 5
– ย้ายศาลาทรงไทย จำนวน 3 หลังจากหลังอาคาร 1 ไปสร้างใหม่ที่หน้าอาคาร 1 ด้านวัดเขมาภิรตาราม โดยรวมศาลาจาก 3 หลังเดิมเป็น 2 หลัง
พ.ศ.2554 – พ.ศ.2555 ได้รับงบประมาณจาก สพฐ.จำนวน 14 ล้านบาท และโรงเรียนจัดหางบประมาณสมทบ 14 ล้านบาท สร้างอาคารเรียน 5 ชั้น เป็นจำนวนเงิน 28 ล้านบาท จำนวน 1 หลัง ปัจจุบันคือ อาคาร 3
พ.ศ.2554-2555 ได้รับงบประมาณจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรี จำนวน 106 ล้านบาทในการสร้างอาคารเรียน 8 ชั้น 1 หลัง ปัจจุบันคือ อาคาร 7
พ.ศ.2557 ปรับปรุงอาคาร 7 โดยการติดตั้งแผงกั้นกันแสงรอบอาคาร
พ.ศ.2558 ปรับปรุงบริเวณโดยรอบอาคาร 7 โดยการเทพื้นและปูกระเบื้องปรับภูมิทัศน์โดยรอบโรงเรียน ปรับปรุงห้องเรียนโครงการ English Program จำนวน 1 ห้อง
พ.ศ.2560 ปรับปรุงบริเวณโดยรอบอาคาร 3 โดยการเทพื้นและปูกระเบื้องทาสีสนามยงใจยุทธ